′ประจิน′เผยวงเวิร์กช็อปของคมนาคมอนุมัติขึ้นค่าตั๋วรถไฟฟ้าใต้ดินช่วงต้นปีหน้า รวมทั้งขึ้นค่าโดยสารแท็กซี่มิเตอร์ 8-11%
@ ปรับขึ้นตั๋วรถไฟใต้ดิน1ม.ค.58
เมื่อวันที่ 27 กันยายน พล.อ.อ.ประจิน จั่นตอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ให้สัมภาษณ์ภายหลังจัดการสัมมนาเชิงปฏิบัติการ (เวิร์กช็อป) แนวทางการแก้ไขปัญหาด้านการขนส่งทางบก ที่กระทรวงคมนาคม ว่ากรณีการปรับขึ้นค่าโดยสารรถไฟฟ้าใต้ดินอีก 1-2 บาท ตามสัญญาสัมปทานที่บริษัท รถไฟฟ้ากรุงเทพ จำกัด (มหาชน) หรือบีเอ็มซีแอล ทำไว้กับการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) นั้นได้มีการเจรจากับบีเอ็มซีแอลจนได้ข้อสรุปแล้วว่า ในวันที่ 3 ตุลาคมนี้
จะยังไม่ปรับขึ้นราคา จะคงราคาเดิมต่อไปจนถึงวันที่ 31 ธันวาคม 2557 จากนั้นจะปรับขึ้นราคาตามสัญญาในวันที่ 1 มกราคม 2558 เป็นต้นไป โดยไม่มีเงื่อนไขใดๆ ทั้งสิ้น หลังจากนี้จะต้องปรึกษากับฝ่ายกฎหมายก่อนว่าจะต้องนำเรื่องเสนอเข้าที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) หรือไม่ เพื่อให้มีผลทางกฎหมาย
@ เคาะปรับแท็กซี่มิเตอร์8-11%
พล.อ.อ.ประจินกล่าวอีกว่า เรื่องการปรับค่าโดยสารแท็กซี่มิเตอร์ ได้มีการพิจารณาแล้วโดยแยกประเด็นเป็น 2 กลุ่ม คือ 1.ดัชนีชี้วัดในเรื่องของค่าครองชีพ ค่าใช้จ่ายต่างๆ ของประชาชนและผู้ประกอบการ ในเรื่องนี้จะพิจารณาให้ปรับขึ้น 8-11% 2.เรื่องค่าใช้จ่ายด้านพลังงานที่จะเปลี่ยนแปลงหรือไม่อย่างไร คงต้องรอให้กระทรวงพลังงานสรุปชัดเจนก่อนว่าจะมีการปรับขึ้นราคาก๊าซที่ใช้กับแท็กซี่อย่างไร และเท่าใด คาดว่าจะสรุป
ช่วงเดือนตุลาคมนี้ หลังจากนั้นกระทรวงคมนาคมจะพิจารณาในเรื่องค่าแท็กซี่โดยนำประเด็นจากทั้ง 2 กลุ่มมาพิจารณาในภาพรวมอีกครั้งควรจะปรับขึ้นเท่าใด
@ ให้ปรับปรุงสภาพรถใน30วัน
พล.อ.อ.ประจินกล่าวว่า กระทรวงคมนาคมจะให้เวลารถแท็กซี่ปรับปรุงสภาพรถให้อยู่ในสภาพดีอย่างชัดเจนรวมระยะเวลา 30 วัน เริ่มตั้งแต่วันที่ 5 ตุลาคมนี้เป็นต้นไป เช่น การแก้ไขปัญหาเรื่องกลิ่นภายในตัวรถ ระบบแอร์ ความสะอาด มารยาทคนขับ และสภาพรถต่างๆ หากครบกำหนดแล้วรถคันไหนสามารถปรับปรุงให้เป็นไปตามหลักเกณฑ์ที่กำหนดได้ จะได้รับสัญลักษณ์ติดไว้ที่รถเพื่อให้สามารถพิจารณาปรับขึ้นค่าโดยสารได้ แต่หากคันไหนไม่สามารถดำเนินการได้จะไม่ได้รับการพิจารณา คาดว่าจะพิจารณาให้ปรับขึ้นค่าโดยสารได้ในช่วงต้นเดือนพฤศจิกายนนี้
“ผ่านมาประมาณ 22 ปีแล้วที่รถแท็กซี่ไม่ได้ปรับขึ้นค่าโดยสาร ดังนั้น จะต้องพิจารณาให้เพื่อให้สอดคล้องกับค่าครองชีพที่สูงขึ้น การกำหนดราคาที่ชัดเจนจะพิจารณาจากต้นทุนการให้บริการในทุกด้านประกอบกัน เพื่อให้คนขับรถแท็กซี่มีกำไรเหลือในแต่ละวันตั้งแต่ 300 บาทขึ้นไป จากปัจจุบันที่มีกำไรเหลือต่ำกว่า 300 บาทต่อวัน แต่คนขับรถแท็กซี่ก็ต้องปรับปรุงบริการให้เป็นไปตามหลักเกณฑ์กำหนดด้วย โดยให้กรมการขนส่งทางบก (ขบ.) ร่วมกับบริษัทเอกชน ทำสัตยาบันกับผู้ประกอบการรถแท็กซี่ และคนขับรถแท็กซี่เพื่อร่วมกันสำรวจรถแท็กซี่ในช่วงระยะเวลาที่กำหนดให้มีการปรับปรุงบริการด้วย” พล.อ.อ.ประจินกล่าว
@ ปรับขึ้นตามระยะทาง-ช่วงรถติด
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคมกล่าวอีกว่า ราคาค่าโดยสารที่จะปรับขึ้นนั้น จะไม่ปรับอัตราเริ่มต้นที่ปัจจุบันเก็บ 35 บาท แต่จะเป็นการปรับราคาตามระยะทางและในช่วงที่รถติดให้สูงขึ้นกว่าเดิมมากกว่า นอกจากนี้ จะส่งเสริมให้รถแท็กซี่ที่ติดก๊าซแอลพีจีประมาณ 3 หมื่นคันในปัจจุบันจากจำนวนรถแท็กซี่ในเขตกรุงเทพฯและปริมณฑลจำนวน 1.11 แสนคัน หันไปติดก๊าซเอ็นจีวีแทน เพื่อลดอันตรายและความเสี่ยงกรณีเกิดอุบัติเหตุ เพราะในเขตกรุงเทพฯไม่มีปัญหาเรื่องสถานีบริการอย่างแน่นอน แต่จะมีในรอบนอกบ้างซึ่งได้ประสานบริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) ไปดำเนินการแล้ว
Cr.matichon.co.th (770)