จุดเปลี่ยนของ “แอนดรอยด์” รายได้จากแอปพลิเคชั่นพุ่ง

เมื่อพูดกันถึงตลาดโมบายดีไวซ์ ที่ประกอบด้วยแท็บเลตและสมาร์ทโฟนในปัจจุบัน ต้องยอมรับกันว่าแอนดรอยด์เป็นแพลตฟอร์มที่ครองโลกแซงหน้า iOS ของแอปเปิลไปแล้ว ในแง่ของปริมาณเครื่องหรือส่วนแบ่งตลาด และสิ่งสำคัญของแท็บเลตหรือสมาร์ทโฟนที่ขาดไม่ได้ ก็คือ แอปพลิเคชั่นที่จะมัดคนเอาไว้กับระบบปฏิบัติการ

ที่ผ่านมาพฤติกรรมการใช้งานของผู้ใช้แอนดรอยด์ ซึ่งแม้จะมีจำนวนมากกว่ากันมาก กลับไม่นิยมซื้อแอปพลิเคชั่น เมื่อเทียบกับผู้ใช้ iOS คนใช้แอนดรอยด์จ่ายเงินกับแอปพลิเคชั่นน้อยกว่า ในช่วงแรก ๆ นั้นบรรดานักพัฒนาแอปพลิเคชั่นบางส่วนจึงไม่ค่อยอยากจะพัฒนาแอปพลิเคชั่นบน แอนดรอยด์ เพราะมันไม่ทำเงินเมื่อเทียบกับบน iOS

ที่จริงแล้วในการ ใช้งานของคน 2 กลุ่มนี้ มีความแตกต่างนอกเหนือจากการซื้อแอปพลิเคชั่นด้วย เช่น คนใช้แอนดรอยด์บริโภคข้อมูลน้อยกว่าคนใช้ iOS นิยมใช้ไวไฟมากกว่า 3G เป็นต้น

อย่างไรก็ตาม เมื่อเวลาผ่านไปการใช้จ่ายกับแอปพลิเคชั่นของฝั่งแอนดรอยด์เริ่มสูงขึ้นเรื่อย ๆ เห็นสัญญาณของการเติบโตชัดเจน

เมื่อเร็ว ๆ นี้มีรายงานชิ้นหนึ่งของบริษัทดิสติโม บริษัทวิเคราะห์เกี่ยวกับแอปพลิเคชั่นให้ข้อมูลว่า รายได้จาก

แอ ปพลิชั่นบนกูเกิลเพลย์สโตร์ในช่วงครึ่งปีที่ผ่านมาเติบโตขึ้นประมาณร้อยละ 67 ตรงกันข้ามสำหรับรายได้ของแอปสโตร์ของแอปเปิลเติบโตเพียงร้อยละ 15 ในช่วงเดียวกัน จากการสำรวจใน 18 ประเทศที่มีผู้ใช้แอปพลิเคชั่นสูงที่สุด

ถึง แม้ว่าในแง่ของเม็ดเงินจริง ๆ แล้วยังห่างกันถึง 2 เท่า แต่การเติบโตในฝั่งแอนดรอยด์ก็เกิดขึ้นอย่างค่อนข้างรวดเร็วมาก และน่าจะเป็นจุดเริ่มเปลี่ยนเพราะช่องว่างเริ่มแคบลง จากทิ้งห่าง 4 เท่า

ในเดือนพฤศจิกายนปีที่แล้วลดลงมาเหลือ 3 เท่าในเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา

รายได้ที่เพิ่มขึ้นของกูเกิลเพลย์สโตร์ โดยหลัก ๆ มาจาก 3 ประเทศ คือ สหรัฐอเมริกา ญี่ปุ่น และเกาหลีใต้

สหรัฐ เป็นตลาดสมาร์ทโฟนใหญ่อันดับ 2 รองจากญี่ปุ่น ขณะที่แอนดรอยด์ในญี่ปุ่นนั้นเติบโตอย่างรวดเร็ว รายได้ของกูเกิลเพลย์สโตร์ในญี่ปุ่นเกือบเท่ากับแอปเปิล ส่วนเกาหลีใต้ไม่ต้องพูดถึงเพราะนั่นคือบ้านของซัมซุงผู้เป็นเจ้าแห่งสมาร์ท โฟนและแท็บเลต และเจ้าแห่งแอนดรอยด์

แต่นี่ยังถือเป็นเพียงจุดเริ่ม ต้นเพราะข้อมูลที่น่าสนใจยิ่งไปกว่านั้นก็คือ สถิติแอปฟรี 5 อันดับแรกบนแอปสโตร์ของแอปเปิลล้วนแต่เป็นเกมทั้งหมด ขณะที่บนกูเกิลเพลย์สโตร์ ได้แก่ เฟซบุ๊ก ตามมาด้วย WhatsApp และมีเฟซบุ๊กเมสเซนเจอร์รั้งอันดับ 5 แอปพลิเคชั่นดังกล่าวนี้เป็นแอปพลิเคชั่นที่ผู้ใช้สมาร์ทโฟนเป็นครั้งแรกจะ โหลดมาใช้งาน

ลิโอ มิรานิ แห่ง qz.com ให้ความเห็นว่า แม้ว่าผู้ใช้แอนดรอยด์จะถูกมองว่าไม่ค่อยใช้จ่ายกับแอปพลิเคชั่นมาเป็นเวลา นานแล้ว และยังคงเป็นจริงอยู่บ้างในบางระดับ แต่รายงานของดิสติโมก็สะท้อนให้เห็นว่า เมื่อเวลาผ่านไปแอนดรอยด์ก็กลายเป็นแพลตฟอร์มที่ทำเงินได้และที่จริงแล้ว รายงานชิ้นก่อนหน้านี้ของดิสติโมพบว่า WhatsApp ทำเงินจากกูเกิลเพลย์สโตร์มากกว่าแอปสโตร์ในยุโรป 3 ประเทศในเดือนเมษายนที่ผ่านมา

ถึงแม้ว่าจุดอ่อนของแอนดรอยด์ที่มอง กันว่ามันกระจัดกระจายไม่ได้เป็นหนึ่งเดียวแบบ iOS โดยที่ผลิตภัณฑ์แอนดรอยด์ในท้องตลาดมีมากกว่า 10,000 รุ่น

แต่ถึง ที่สุดแล้วการครองความเป็นเจ้าในตลาดซึ่งเป็นผลมาจากความกระจัดกระจายบนพื้น ฐานของการที่เป็นโอเพ่นซอร์ซ ก็เริ่มจะส่งผลให้เห็น แม้อาจจะใช้เวลานานอยู่บ้างก็ตาม

ที่มาของบทความ

(976)

Comments are closed.