กลุ่มธุรกิจโคคา-โคล่า ในประเทศไทย ประกอบด้วย บริษัทโคคา-โคลา (ประเทศไทย) จำกัด และพันธมิตรผู้ผลิตและจำหน่าย ได้แก่ บริษัทไทยน้ำทิพย์ จำกัด และบริษัทหาดทิพย์ จำกัด (มหาชน)
ได้แถลงแผนธุรกิจ ร่วมกัน พร้อมรายงานอัตราเติบโตที่เพิ่มสูงขึ้นเป็นประวัติการณ์ที่ 23% ในปี 2555 มียอดขาย 30,000 ล้านบาท พร้อมกับแผนขยายการลงทุนเพิ่มกำลังการผลิต 35% ด้วยงบ 4,000 ล้านบาท ซึ่งเป็นการแถลงร่วมกันครั้งแรกในรอบหลายปี
นายพรวุฒิ สารสิน รองประธานกรรมการ บริษัท ไทยน้ำทิพย์ กล่าวว่า ในปีก่อนหน้ากลุ่มธุรกิจโคคา-โคล่า เป็นผู้นำในตลาดน้ำอัดลมมูลค่า 44,000 ล้านบาท ด้วยส่วนแบ่ง 55.5% โดยเฉพาะตลาดน้ำดำที่โค้กสามารถขึ้นเป็นผู้นำเหนือเป๊ปซี่ มีส่วนแบ่ง 50% ตอนนี้โค้กเป็นแบรนด์อันดับแรกที่ผู้บริโภคไทยนึกถึงแล้ว สิ่งที่ท้าทายหลังจากนี้คือการรักษาความเป็นผู้นำ ไทยน้ำทิพย์พร้อมจะรักษาความเป็นผู้นำและผลักดันส่วนแบ่งขึ้นอีก ด้วยการลงทุน 2,600 ล้านบาท เพิ่มสายผลิตอีก 3 สาย เพิ่มกำลังการผลิตทั้งเครื่องดื่มอัดลมและไม่อัดลมอีก 35%
พลตรี พัชร รัตตกุล ประธานเจ้าหน้าที่ปฏิบัติการ บริษัท หาดทิพย์ จำกัด (มหาชน) เดือนเมษายนนี้บริษัทจะเปิดโรงงานแห่งใหม่ ที่จังหวัดสุราษฎร์ธานี ด้วยงบลงทุนกว่า 1,400 ล้านบาท เพิ่มกำลังการผลิตเครื่องดื่มอัดลมบรรจุขวดเพ็ท อีก 3 เท่าตัว รวมถึงจะผลิตเครื่องดื่มไม่อัดลมในอนาคตด้วย การกลับมาเป็นผู้นำครั้งนี้ถือว่าเป็นในรอบ 12 ปี หลังจากสูญเสียในปี 2543
นายแอนโตนิโอ เดล โรซาริโอ ผู้จัดการทั่วไป บริษัท โคคา-โคล่า (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า ปีก่อนหน้าโค้กในไทยมีอัตราเติบโต 32% สูงสุดในรอบ 10 ปี และมีอัตราเติบโตเป็นอันดับสองของโลกรองจากอินเดีย จาก 206 ประเทศทั่วโลกที่โค้กเข้าไปทำตลาด มียอดขายอยู่อันดับ 19 ของโลก
ที่มา: sanook.com (818)