นายภูษิต วงศ์หล่อสายชล ผู้อำนวยการศูนย์วิจัยทองคำ เปิดเผยดัชนีความเชื่อมั่นราคาทองคำเดือนพฤษภาคมมีค่าเท่ากับ 45.50 จุด จากเดือนเมษายนที่ระดับ 52.84
จุดสะท้อนมุมมองเชิงลบหลังจากราคาทองคำปรับ ตัวลงอย่างแรงในเดือนเมษายน แต่ที่น่าสังเกตุคือดัชนีความเชื่อมั่นเมื่อยกรายกลุ่มระหว่างนักลงทุนและ กลุ่มผู้ค้าแล้ว ดัชนีความเชื่อมั่นในเดือนพฤษภาคมมีความแตกต่างกัน
โดยกลุ่ม ผู้ลงทุนอยู่ในระดับ 43.54 จุด และกลุ่มผู้ค้าอยู่ที่ระดับ 57.52 จุด เป็นเพราะการตกลงของราคาทองคำมีผลกระทบต่อระดับความเชื่อมั่นของนักลงทุน มากกว่า ขณะที่กลุ่มผู้ค้าเชื่อว่า ราคาจะฟื้นตัวโดยมีปัจจัยจากค่าเงินบาทวิกฤต หนี้ยูโรโซน และการเก็งกำไรเป็นปัจจัยสำคัญ
ส่วนดัชนีความเชื่อมั่นราคาทองคำใน 3 เดือนข้างหน้า นายกมลธัญ พรไพศาลวิจิค ผู้อำนวยการศูนย์วิจัยทองคำ พบว่าทั้งกลุ่มนักลงทุนและกลุ่มผู้ค้าทองคำยังมีมุมมองเชิงบวกกับทองคำแต่ลด ลงจากเดือนเมษายน
โดยให้ดัชนีความเชื่อมั่นราคาทองคำใน 3 เดือนข้างหน้าลดลงจากเดือนมีนาคมร้อยละ 12.82 เป็นการลดลงต่อเนื่อง 2 เดือนติดกัน และดัชนีความเชื่อมั่นราคาทองคำในช่วง 3 เดือนข้างหน้าอยู่ที่ระดับ 56.72 จุด โดยปัจจัยที่ให้ความสำคัญคือการเก็งกำไร ค่าเงินบาท และวิกฤติยูโรโซน
ขณะ เดียวกันจากผลของการวิจัยเชื่อว่าราคาทองคำในปีนี้จะอยู่ในระดับ 1,250-1,450 ดอลลาร์ต่อออนซ์ และจะไม่มีโอกาสกลับไปสู่ระดับสูงสุดที่เกิน 1,750 ดอลลาร์ต่อออนซ์ได้ เนื่องจากทองคำอยู่ในช่วงขาลงอย่างชัดเจน
สำหรับ ผู้ลงทุนในตลาดทองคำล่วงหน้าศูนย์วิจัยทองคำแนะนำว่า ควรเป็นการลงทุนระยะสั้น โดยเฉพาะหากมีวันหยุดยาวแนะนำให้นักลงทุนขายเพื่อถือเงินสดไว้ก่อน แล้วค่อยกลับมาลงทุนหลังจากตลาดหลักทรัพย์เปิดทำการแล้ว
ส่วนราคาทองคำในประเทศผู้ค้าให้น้ำหนักไว้ที่ระดับสูงสุดไม่เกินบาทละ 21,100 บาท และต่ำสุดไม่เกินบาทละ 18,900 บาท
ที่มา: sanook.com (915)