นอกจากการบริการ 3G คลื่น 2.1 GHz จะผลักดันตลาดโทรคมนาคมให้เติบโตทั้งในแง่บริการ และธุรกิจขายอุปกรณ์สมาร์ทดีไวซ์ทั้งหลายแล้ว ยังส่งผลถึงตลาดโฆษณา “ดิจิทัลมาร์เก็ตติ้ง” ในประเทศไทยด้วย จากการที่คนทั่วไปเข้าถึงสื่ออินเทอร์เน็ตผ่านสมาร์ทดีไวซ์ต่าง ๆ ได้มากขึ้น นั่นหมายความว่า สื่อออนไลน์จะมีบทบาทเพิ่มขึ้นเป็นเงาตามตัว กลายเป็นอีกช่องทางสำคัญสำหรับนักการตลาด
“เอ็ม อินเตอร์แอ็คชั่น” บริษัทในเครือกรุ๊ปเอ็ม ผู้เชี่ยวชาญด้านการตลาดดิจิทัล ให้ข้อมูลในงานสัมมนา FOCAL 2013 โดยคาดการณ์ว่า ปี 2556 นี้มูลค่าของงบฯการตลาดสำหรับใช้กับสื่อดิจิทัล และจำนวนเอเยนซี่โฆษณาออนไลน์จะเพิ่มขึ้นอย่างเห็นได้ชัด ขณะที่พฤติกรรมการใช้สื่อออนไลน์ของนักการตลาดในไทยจะมีการเปลี่ยนแปลงให้ เห็นอย่างมีนัยสำคัญ
“นิคลาส สตอลเบิร์ก” ผู้อำนวยการฝ่ายปฏิบัติการ บริษัท เอ็ม อินเตอร์แอ็คชั่น กล่าวว่า การใช้กลยุทธ์ด้านสื่อออนไลน์อย่างมีประสิทธิภาพต้องผสมผสานสื่อโฆษณาตลอด เส้นทางการตัดสินใจซื้อของลูกค้าไม่ยึดติดกับการใช้สื่อรูปแบบใดรูปแบบหนึ่ง แต่คิดถึงทุกสื่อพร้อมกันเพื่อให้ตอบโจทย์ และทำให้โฆษณามีประสิทธิผลที่สุด
โดยนักการตลาดต้องตอบสนองความต้อง การของลูกค้าให้ได้ในงบประมาณที่จำกัด ซึ่งปัจจุบันเริ่มให้ความสำคัญกับการตัดสินใจซื้อของคนทั่วไป ด้วยการดูว่า มีรูปแบบการหาข้อมูลอย่างไร เพื่อส่งสื่อโฆษณาของตนไปตามช่องทางนั้น
นักการ ตลาดควรเปลี่ยนแนวคิดจากการซื้อสื่อจากตำแหน่งมาเป็นซื้อจากพฤติกรรมของผู้ บริโภค โดยใช้เทคโนโลยีใหม่ที่เรียกว่า Demand Side Platforms (DSPs) ซึ่งเปิดโอกาสให้เลือกลงสื่อ โดยวิเคราะห์พฤติกรรมผู้บริโภคที่เหมาะกับเนื้อหาสื่อมากที่สุด โดยใช้ระบบ Bidding และเลือกจ่ายตามจำนวนครั้งการมองเห็น ทำให้ลดค่าใช้จ่ายได้ถึง 30% เข้าถึงกลุ่มผู้ชมที่ตรงกับกลุ่มเป้าหมายมากขึ้น
“DSPs เป็นประโยชน์กับเว็บไซต์รายเล็กในไทย ทำให้พื้นที่โฆษณาในเว็บไซต์มีมูลค่าสูงขึ้น แม้เทคโนโลยีนี้จะเป็นของใหม่ มีคนใช้ไม่มากแต่ปีนี้จะเห็นแพร่หลายขึ้น ซึ่งกรุ๊ปเอ็มเตรียมเปิดตัวเทคโนโลยีดีเอสพีของตนเอง พ.ค.นี้ อาจทำให้ได้ลูกค้าใหม่ ในอุตสาหกรรม โรงแรม, สายการบิน และธนาคารที่เน้นประสิทธิผลในการทำตลาดด้วยต้นทุนที่ต่ำที่สุด”
และ ในปีนี้ ความนิยมในการใช้สื่อวิดีโอออนไลน์ในการทำตลาดเติบโตขึ้นมาก ไม่ว่าจะเป็นในรูปแบบคลิปวิดีโอสั้นเพื่อสร้างกระแสบอกต่อ คลิปวิดีโอแบบยาวทำเป็นมิวสิกวิดีโอแสดงสินค้า หรือคลิปวิดีโอที่ใช้วิธีนำโฆษณาในรูปแบบเดียวกับสื่อโทรทัศน์มาปรากฏให้ เห็นก่อนไฟล์วิดีโอที่ผู้ใช้เว็บไซต์ต้องการรับชม ปัจจุบันผู้ใช้อินเทอร์เน็ตในไทยกว่า 82% รับชมหรือดาวน์โหลดไฟล์วิดีโอออนไลน์
“นิคลาส” มองว่า นักการตลาดจะจัดสรรงบประมาณในการทำโฆษณาใหม่ โดยให้ความสำคัญกับการทำคอนเทนต์เพื่อเผยแพร่ผ่านโซเชียลมีเดียมากขึ้น เนื่องจากเข้าถึงคนทั่วไปได้เป็นจำนวนมาก และผู้บริโภคยังให้ความเชื่อถือกับคอนเทนต์บนโซเชียลมีเดียมากกว่าสื่อโฆษณา ทั่วไป
ปัจจุบันสัดส่วนการใช้งบประมาณการตลาดกับสื่อดิจิทัลที่ต้อง ใช้เงินซื้อพื้นที่โฆษณา (แบนเนอร์, เสิร์ชเอ็นจิ้น) อยู่ที่ 68% แม้ปีนี้นักการตลาดจะหันมาให้ความสำคัญกับการทำคอนเทนต์เผยแพร่บนโซเชีย ลเน็ตเวิร์กมากขึ้น แต่สัดส่วนการใช้งบประมาณการตลาดดิจิทัลมาร์เก็ตติ้งอาจไม่เปลี่ยนแปลง เพราะตลาดรวมเติบโตมาก
“ศิวัตร เชาวรียวงษ์” ประธานกรรมการบริหาร บริษัท เอ็ม อินเตอร์แอ็คชั่น ระบุว่า การเติบโตของสื่อโฆษณาดิจิทัลในไทย
ปี 2556 จากข้อมูลของสมาคมโฆษณาดิจิทัลแห่งประเทศไทย พบว่าจะเติบโตจากปีที่แล้ว 48.03% คิดเป็นเม็ดเงิน 4,500 ล้านบาท เพิ่มจาก 3 พันล้านปี 2554 คิดเป็นสัดส่วน 4% จากเม็ดเงินด้านการตลาดทั้งหมดในไทย ที่มีประมาณ 100,000 ล้านบาท
โดยกลุ่มลูกค้าใหญ่ที่สุดที่ใช้ ดิจิทัลมาร์เก็ตติ้ง คือ เพอร์ซันนอลแคร์ กลุ่มที่มาแรงคือภาคธุรกิจธนาคาร เพราะเศรษฐกิจดีทำให้ธนาคารนำงบประมาณมาแข่งกันทำแบรนดิ้ง ประกอบกับช่วงหลังธนาคารเริ่มมีบริการผ่านอินเทอร์เน็ตมากขึ้น
สิ่งที่เห็นได้ชัดจากกลุ่มผู้บริโภคคือความนิยมใช้สมาร์ทโฟนและบริการด้านดาต้าผ่านโทรศัพท์มือถือที่เพิ่มขึ้นสูงมาก
“ศิ วัตร” ย้ำอีกว่า นักการตลาดดิจิทัลควรให้ความสำคัญกับ 4 ทิศทางใหม่ในปีนี้ ได้แก่ การเลือกซื้อโฆษณาประเภท Paid Media การผสมผสานสื่อโฆษณาตลอดเส้นทางการตัดสินใจซื้อของลูกค้า การใช้สื่อวิดีโอ และการสร้าง En-gagement กับลูกค้าผ่านสื่อประเภท Owened และ Earned Media
“สื่อ โฆษณาดิจิทัลในไทยจะโตก้าวกระโดด ยิ่งกว่านี้หาก 3G ครอบคลุมการให้บริการทุกพื้นที่และสมาร์ทโฟนราคาถูกมีให้เห็นแพร่หลายขึ้น แต่จำเป็นต้องรอเวลาสักพักเพื่อให้ผู้บริโภคเปลี่ยนจากการใช้ฟีเจอร์โฟนมา เป็นสมาร์ทโฟน”
และวันนี้แทบไม่มีแบรนด์ใดในไทย ไม่เชื่อเรื่องการทำตลาดแบบดิจิทัล โฆษณาดิจิทัลไม่ใช่เรื่องใหม่ สื่ออินเทอร์เน็ตเข้ามากว่า 10 ปีแล้ว แต่การทำตลาดออนไลน์เพิ่งได้รับความนิยม 1-2 ปีหลังนี้ เพราะนักการตลาดรุ่นใหม่เติบโตมากับเทคโนโลยี ทั้งปัจจุบันยังใช้งานได้ง่าย
และเครื่องมือการตลาดออนไลน์ที่ขาดไม่ได้ในปีนี้ คือ โซเชียลมีเดีย เพราะมีประสิทธิภาพ และคุ้มค่าในการลงทุนแต่ยังมีบางกลุ่มธุรกิจในไทยยังไม่ใช้การตลาดแบบดิจิ ทัล เพราะกลุ่มลูกค้าไม่ตรงกับสื่ออินเทอร์เน็ต
ภาพรวมธุรกิจเอเย นซี่โฆษณาดิจิทัล แม้จะแข่งขันสูง แต่งานเยอะมาก ปัจจุบันในไทยมีเอเยนซี่ที่เน้นสื่อดิจิทัลประมาณ 10 ราย แต่จากนี้เอเยนซี่โฆษณาทุกรายคงผันตนเองมารับการทำตลาดแบบดิจิทัลกันหมด
ที่มา: http://www.prachachat.net (783)